
ใช้แพยางนั่งได้ประมาณ 8 -10 คน ล่องในลำน้ำใสใหญ่ สภาพแก่งน้ำอยู่ในระดับ 3 -5 นักล่องแก่งจะต้องใช้ทักษะและความชำนาญในการพายสูง เมื่อนักท่องเที่ยวติดต่อล่องแก่งกับผู้ประกอบการแล้ว ผู้ประกอบการฯ จะพานักท่องเที่ยวไปยังบริเวณขญ. 9 (ใสใหญ่) และเดินป่าไปยังต้นน้ำ ระยะทางประมาณ 2.5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 45 นาที จากนั้นจะเริ่มล่องแก่งมายังจุดสุดท้ายบริเวณ ขญ.9 ี
สถานที่ตั้งหน่วยพิทักษ์ป่า ขญ.9 อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี
ลักษณะของสายน้ำแก่งหินเพิง เป็นแก่งหินตอนปลายสุดของแม่น้ำใสใหญ่ ซึ่งมีลักษณะทางธรณีวิทยาเป็นชั้นหินทราย ครั้นเมื่อถึงฤดูฝนกระแสน้ำจะไหลหลากอย่างรุนแรงจนทำให้เกิดเกาะแก่งต่าง ๆ มากมาย แก่งหินเพิงเป็นที่มีความเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ชอบความท้าทายกับสายน้ำอันเชี่ยวกราก โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงเดือนตุลาคมกระแสน้ำบริเวณแก่งหินเพิงจะไหลรุนแรงมาก
ระยะเวลาในการล่อง
ล่องได้เฉพาะช่วงฤดูฝนเท่านั้น จากแก่งหินเพิงเป็นจุดเริ่มต้นในการล่องถึงแก่งงูเห่าแก่งสุดท้าย ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
ล่องได้เฉพาะช่วงฤดูฝนเท่านั้น จากแก่งหินเพิงเป็นจุดเริ่มต้นในการล่องถึงแก่งงูเห่าแก่งสุดท้าย ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
ความตื่นเต้น ท้าทาย
การล่องแก่งสายนี้จุดเด่นอยู่ที่ตัวอก่งหินเพิงอันเป็นจุดเริ่มต้นของการล่องแก่ง เมื่อถึงฤดูฝนตั้งแต่เดือนกรกฎาคม - ตุลาคม กระแสน้ำจะไหลหลากอย่างรุนแรงก่อให้เกิดเกาะแก่งมากมาย ตัวแก่งหินเพิงมีลักษณะเป็นลานหินหักเทลื่นลงมาจนเกิดเป็นกระแสน้ำวนและเชี่ยวกราก ต้องใช้ความสามารถและทักษะในการพายเป็นอย่างยิ่ง จากจุดเริ่มต้นเหนือแก่งหินเพิงลงมาจะผ่านแก่งวังบอน บริเวณนี้จะมีโขดหินสองฝั่งขวางกระแสน้ำอยู่บีบให้กระแสน้ำเข้าหากับเป็นรูปตัววี และถ้าผ่านแก่งวังบอนมาได้ กระแสน้ำหลังแก่งวังบอนจะไหลย้อนทิศทางตรงนี้สามารถพักเรือบริเวณนี้ได้ ล่องเรือต่อมาจะพบกับแก่งลูกเสือ ซึ่งมีความสนุกสนานเร้าใจไม่แพ้แก่งหินเพิง และผ่านไปจนถึงแก่งวังไทร และแก่งงูเห่า ซึ่งเป็นแก่งสุดท้ายของการล่องแก่งสายน้ำช่วงนี้แก่งวังไทรจะมีลักษณะเป็นคลื่นใหญ่ม้วนตัวขึ้นเป็นวง สร้างความตื่นเต้นเร้าใจได้พอสมควร
การล่องแก่งสายนี้จุดเด่นอยู่ที่ตัวอก่งหินเพิงอันเป็นจุดเริ่มต้นของการล่องแก่ง เมื่อถึงฤดูฝนตั้งแต่เดือนกรกฎาคม - ตุลาคม กระแสน้ำจะไหลหลากอย่างรุนแรงก่อให้เกิดเกาะแก่งมากมาย ตัวแก่งหินเพิงมีลักษณะเป็นลานหินหักเทลื่นลงมาจนเกิดเป็นกระแสน้ำวนและเชี่ยวกราก ต้องใช้ความสามารถและทักษะในการพายเป็นอย่างยิ่ง จากจุดเริ่มต้นเหนือแก่งหินเพิงลงมาจะผ่านแก่งวังบอน บริเวณนี้จะมีโขดหินสองฝั่งขวางกระแสน้ำอยู่บีบให้กระแสน้ำเข้าหากับเป็นรูปตัววี และถ้าผ่านแก่งวังบอนมาได้ กระแสน้ำหลังแก่งวังบอนจะไหลย้อนทิศทางตรงนี้สามารถพักเรือบริเวณนี้ได้ ล่องเรือต่อมาจะพบกับแก่งลูกเสือ ซึ่งมีความสนุกสนานเร้าใจไม่แพ้แก่งหินเพิง และผ่านไปจนถึงแก่งวังไทร และแก่งงูเห่า ซึ่งเป็นแก่งสุดท้ายของการล่องแก่งสายน้ำช่วงนี้แก่งวังไทรจะมีลักษณะเป็นคลื่นใหญ่ม้วนตัวขึ้นเป็นวง สร้างความตื่นเต้นเร้าใจได้พอสมควร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น